คลิกที่รูปแล้วลองอ่านก่อนนะครับ
ถ้ายังไม่ชัดก็ไปอ่านที่ลิงค์เค้าเลย
http://www.thairath.co.th/content/tech/33609
<< อันนี้เป็นหน้าตาของเจ้าเครื่องที่มีขายกันทั่วไป
รูปจาก http://www.cell-phone-jammers.com
-------------------------------------------------------------------
จากข่าวนี้ ประเด็นที่ผมจะคุยอยู่ตรงที่มาร์คสีเหลืองไว้ ผมว่านะ
1. เจ้าเครื่องตัดสัญญาณมือถือ ที่ว่าพัฒนาขึ้นมา 88 เครื่อง นี่มันเหนือกว่าของจีนที่ทำขายกันเกลื่อนอยู่ตอนนี้ยังไง?
2. ราคาเครื่องมันจะทำได้ถูกกว่าเค้าหรือไม่
3. คิดเครื่องตัดสัญญารได้ อีกหน่อยก็มีคนคิดเครื่องตัดสัญญาณของเครื่องนี้อีกทีอยู่ดี ตัดกันไปตัดกันมา แล้วมีระบบอะไรที่คิดไว้หรือยัง?
4. ไม่ใช่สักแต่ว่ามีเครื่องมือไปยัดใส่มือเจ้าหน้าที่ ในแต่ละทีมแต่ละหน่วยมีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญหรืออย่างน้อยพอจะเป็นมวยมางด้านนี้อยู่บ้างมั๊ย?
5. ข้อนี้สำคัญ ในด้านกฏหมาย ไม่รู้ว่าถ้าเจ้าของกิจการบางอย่างเช่น โรงหนัง โรงพยาบาล โรงเรียน ซื้อเจ้าเครื่องนี้ไปติดตั้ง แล้วจะมีปัญหาว่าไปรบกวนสัญญาณ ไปละเมิดสิทธิ์ผู้ใช้มือถือหรือไม่ ข้อนี้ไม่รู้จริงๆครับ
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในบ้านเรากฏหมายออกมาตามหลังเทคโนโลยีเสมอ ทุกอย่างเริ่มต้นใช้งานกันอย่างผิดกฏหมายก่อนทั้งนั้น แล้วค่อยออกกฏหมายตามมา และแน่นอน เพื่อพวกพ้องและผลประโยชน์ของคนมีอำนาจในทุกยุคทุกสมัยด้วย
แต่อย่างไรก็ตามถึง NECTEC ไม่ทำออกมา ก็มีขายกันเกลื่อนแล้ว ราคา 5-6 พันถึงหมื่นกว่าบาท มีแยะเลย ทั้งเวปไทยเวปนอก
จริงๆผมอยากให้เอามาติดในห้องเรียนตามมหาลัยเหมือนกันนะ
ห้องเรียนสมัยนี้ ก็มักจะมีเครื่องมือไอทีติดตั้งอยู่หลายรายการ เช่นโปรเจคเตอร์ วิชวลไลเซอร์
ถ้าจะเพิ่มเจ้าตัวนี้ไปอีกตัวทาจะดี เปิด-ปิดเครื่องได้โดยผู้สอน
เด็กๆเดี๋ยวนี้เค้าคิดและเชื่อจริงๆนะครับ ว่าโทร.มือถือของเค้า เค้ามีสิทธิ์จะโทร.ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้
อันนี้ไม่ได้ประชด แต่ได้ข้อมูลมาจากประสบการณ์ตรงของผมเลยละครับ
เค้าเข้าใจแบบนี้จริงๆ และก็เหมือนๆกับเรื่องอื่นด้วย
คือทุกคนเรียกร้องและต้องการสิทธิ์ทุกอย่าง แต่ที่ไม่ต้องการและไม่รับรู้เลยคือ หน้าที่
No comments:
Post a Comment